วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตำรวจรวบหนุ่มใหญ่สกลนคร หนีคดีฆ่าข่มขืนกิ๊ก แอบบวชแต่ไปไม่รอด



ตำรวจรวบหนุ่มใหญ่สกลนคร หนีคดีฆ่าข่มขืนกิ๊ก แอบบวชแต่ไปไม่รอด
กองปราบฯ ตามมรวบตัวหนุ่มใหญ่สกลนคร คนร้ายหนีคดีฆ่าข่มขืนสาวใหญ่ชาวขอนแก่น หนีเข้ากรุงพยายามบวชที่วัดธรรมกาย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.พลปพัฒน์ ภู่พูลทรัพย์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้ร่วมกันจับกุม นายสมพงค์ อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น
โดยเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ ขณะกำลังจะกลับภูมิลำเนาด้วยรถไฟ หลังหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯ โดยผู้ต้องหายินยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุมแต่โดยดี
สำหรับ นายสมพงศ์ ได้ก่อเหตุฆ่าและข่มขืน หญิงวัย 52 ปีรายหนึ่ง ภายในบ้านที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตแล้วทำการหลบหนี และหนีบวชเป็นพระที่วัดบ้านนาผือ จ.อำนาจเจริญ แต่เพียงแค่ 2 เดือนก็ต้องสึกออกมา
หลังจากนั้นจึงหลบหนีเข้ามายังกรงเทพฯ และบวชอีกครั้งที่วัดธรรมกาย แต่อยู่ได้ไม่กี่วัดก็ถูกไล่ออกจากวัด เพราะทำตัวไม่เป็นประโยชน์ให้กับวัด จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านและถูกจับกุมได้ดังกล่าว สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะปัญหาความหึงหวง เบื้องต้นได้ทำการชี้แจงข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาเพื่อทราบ ก่อนนำตัวส่งพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ชาวสกลนครร่วมอาลัย "เจ้าสัววิชัย" นำผ้าย้อมครามโกอินเตอร์ไป "เลสเตอร์ ซิตี้"

ชาวสกลนครร่วมอาลัย "เจ้าสัววิชัย" นำผ้าย้อมครามโกอินเตอร์ไป "เลสเตอร์ ซิตี้"
ชาวภูไท บ้านนาขาม ร่วมอาลัยการจากไปของ "เจ้



าสัววิชัย" ผู้นำพาผ้าย้อมครามภูมิปัญญาท้องถิ่น จ.สกลนคร ไปสู่ของที่ระลึกสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ
(30 ต.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานบริษัทคิงเพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ ตกลงกลางลานจอดรถข้างสนามคิงเพาเวอร์สเตเดียม เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะอยู่ไกลถึงประเทศอังกฤษ และในเวลาต่อมามีการแถลงอย่างเป็นทางการว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้เสียชีวิตลง นำความโศกเศร้ามาสู่ครอบครัว และผู้ใกล้ชิด เช่นเดียวกันกับชาวบ้านภูไทกลุ่มเล็กๆ ใน จ.สกลนคร ที่ได้รับโอกาสเป็นผู้ผลิตของที่ระลึกจากวัสดุพื้นบ้าน นำไปสู่เวทีโลกในสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ก็รับรู้ถึงความโศกเศร้าและรู้สึกสะเทือนใจในเหตุการณ์นี้ด้วย
คุณยายสำหรัด สุนาพรม อายุ 69 ปี ประธานกลุ่มทอผ้าย้อมคราม บ้านนาขาม ต.เชิงชุม อ.พรรนานิคม จ.สกลนคร กล่าวว่า รู้สึกตกใจหลังทราบข่าว และเห็นใจกับครอบครัวคิงเพาเวอร์ ที่สูญเสียผู้นำไป ซึ่งสมาชิกในกลุ่มทอผ้า ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่ค่อยเข้าถึงสื่อสมัยใหม่ รับรู้ข้อมูลจากคำบอกเล่าของลูกหลาน และกำลังปรึกษาว่าจะร่วมไว้อาลัยอย่างไร แต่ช่วงนี้สมาชิกต่างแยกย้ายไปเกี่ยวข้าว จึงต้องรอพูดคุยกันก่อน แต่ส่วนตัวของตนเองได้ตักบาตรทำบุญทุกวัน ช่วงนี้ทำได้ก็จะขอสวดมนต์ แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับคุณวิชัยทุกวัน และรู้สึกเสียดายที่คนดีๆ นำความเจริญมาให้ ต้องมาจากไปเร็วขนาดนี้
สำหรับกลุ่มทอผ้าครามบ้านนาขาม ได้รับโอกาสจากกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ที่มีโครงการเพื่อสังคม ‘คิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ พลังคนไทย’ ที่ต้องการส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ สู่สังคมไทย ผ่านกิจกรรม 4 ด้าน หลัก อาทิ ด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านชุมชน และด้านการศึกษา คุณภาพชีวิต สาธารณสุข
โดยบ้านนาขาม จ.สกลนคร ได้รับเลือกนำผ้าย้อมครามไปเป็นของที่ระลึกใหม่ล่าสุดประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิติ้ ภายใต้ชื่อ INDIGO โดยมีการเปิดตัวคอลเลคชั่นแรก เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ที่ประเทศอังกฤษ และปีนี้ คิงเพาเวอร์จึงได้ร่วมพัฒนาคอลเลคชั่นสองกับชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร โดยมีทีมครูช่างศิลปหัตถกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์มาร่วมออกแบบ มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมวก เสื้อ ผ้าคลุม กระเป๋า โดยยังคงคุณสมบัติเด่นของผ้าสีย้อมคราม ได้แก่ เป็นสีธรรมชาติ 100% ผ้ามีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย และใช้ได้หลากหลายโอกาส ทุกชิ้นผ่านการย้อมด้วยมือแบบดั้งเดิม คือ ม้วน มัด และจุ่มในสีจนเกิดเป็นลวดลายเอกลักษณ์ที่งดงาม ประณีต ทำให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาหลายร้อยปีของชาวภูไท และบ้านนาขาม ได้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

น้ำตกแม่อูน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสกลนคร

น้ำตกแม่อูน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสกลนคร
หลังจากที่มีฝนตกลงสม่ำเสมอในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ทำให้มีน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนน้ำอูนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้น้ำตกแม่อูน ซึ่งเป็นน้ำตกที่รับน้ำไหลมาจากเขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำสูงขึ้น
ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ น้ำตกแม่อูน ตั้งอยู่ที่ใต้สันเขื่อนน้ำอูน พื้นที่บ้านหนองไฮน้อย หมู่ 7 ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดสกลนคร โดยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งที่มาเป็นครอบครัว และมากับกลุ่มเพื่อนฝูงเดินทางมาท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ
เนื่องจากน้ำตกแม่อูนมีทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่นมีโขดหินมากมาย เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มักพาครอบครัวมานั่งรับประทานอาหารในช่วงวันหยุด
เขื่อนน้ำอูน ตั้งอยู่ที่อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เป็นเขื่อนดินกั้นแม่น้ำอูนซึ่งเป็นสายหนึ่งของแม่น้ำสงคราม ซึ่งมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาภูพาน
ลักษณะการใช้ประโยชน์ของเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการชลประทานบรรยากาศทั่วไปเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ สภาพโดยทั่วไปเป็นพื้นที่กว้างใหญ่
รายล้อมด้วยเทือกเขาภูพานและป่าไม้ที่สวยงาม บริเวณใกล้กับสันเขื่อนเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่เกิดจากการระบายน้ำออกจากเขื่อน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 54 กิโลเมตร เก็บน้ำได้ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร
ใช้ประโยชน์เพื่อการเพาะปลูกในฤดูฝน 185,800 ไร่ ในฤดูแล้ง 63,000ไร่และช่วยบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำอูน


รมทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ถวายพวงมาลา

รมทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ถวายพวงมาลา
วันที่ 13 ตุลาคม 2561 รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสกลนคร มทร.อีสาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ร่วมวางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทย และมีต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ณ วัดศรีจำปาชนบท อ.พังโคน จ.สกลนคร


สุดยอด! เกษตรกรสกลนคร เพาะพันธุ์ปลา 10 ล้านตัวต่อปี!

สุดยอด! เกษตรกรสกลนคร เพาะพันธุ์ปลา 10 ล้านตัวต่อปี!

นายบุญพร้อม คำลือฤทธิ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านหนองโจด ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร จบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 ยึดอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดทุกชนิด นานกว่า 35 ปี ทั้งปลาพื้นบ้าน ปลาหายาก ปลาคราฟ สร้างรายได้ จากริเริ่มทำการเกษตรแบบผสมผสาน บนเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขยัน ประหยัด อดออม พอมีพอกิน พอใช้ ตั้งแต่ปี 2527 ขณะนี้ทำฟาร์มปลา ทองพันธุ์ปลา บนพื้นที่ของตนเอง 144 ไร่ มีประสบการณ์การเพาะพันธ์สัตว์น้ำมานากว่า 34 ปี ผลผลิตลูกพันธ์สัตว์น้ำจืด ปีละกว่า 10 ล้านตัว ได้รับเกียรติบัตรจากโรงเรียนพังโคนวิทยาคม เนื่องจากเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการเกษตรเป็นอย่างสูงเมื่อปี2548 ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิติมศักดิ์ สาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร เมื่อปี 2549 และได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นระดับเขต ปะจำปี 2561 จากกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการบริหารศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ให้คำปรึกษาและรับบริการแก่ประชาชนที่สนใจการเพาะพันธุ์ปลา

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, หมวก และสถานที่กลางแจ้ง

สกลนคร ฮือฮา เจ้าคำแพง ควายแคระตัวน้อยน่ารัก ขอซื้อตัวเป็นแสนไม่ขาย

สกลนคร ฮือฮา เจ้าคำแพง ควายแคระตัวน้อยน่ารัก ขอซื้อตัวเป็นแสนไม่ขาย
ชาวสกลนครฮือฮา ควายแคระ 'คำแพง' เพศเมีย อายุ 1 ปีแต่สูงเพียง 98 ซม. เจ้าของรักมากให้นอนมุ้ง อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ค่าตัวหลายแสนบาท ไม่อยากขายขอเลี้ยงไว้ก่อน...

ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบควายมีลักษณะพิเศษ ลักษณะเป็นควายแคระ มีความสูงไม่ถึง 1 เมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ พ.รุ่งเรืองฟาร์ม บ.หนองหอย ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร พบ นายจิระเดช พรรณลี อายุ 34 ปี อาชีพเกษตรกร เจ้าของฟาร์ม และเป็นเจ้าของควายแคระที่มีชื่อว่า คำแพง à¹ƒà¸™à¸ à¸²à¸žà¸­à¸²à¸ˆà¸ˆà¸°à¸¡à¸µ 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง และธรรมชาติ
สำหรับเจ้า “คำแพง” ถูกเลี้ยงอยู่ในคอกอย่างดีที่เจ้าของนำเอาตาข่ายสีฟ้ามาเย็บทำเป็นมุ้งรอบๆ คอก เพื่อป้องกันยุง เหลือบ ริ้น ไร ไม่ให้ไต่ตอมเจ้าคำแพง โดยในขณะที่ผู้สื่อข่าวไปถึงนั่น เป็นช่วงเวลาที่เจ้าคำแพงกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในคอก เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวนำกล้องเข้าไปถ่ายรูป เจ้าคำแพงอยู่ทำปากเป็นท่าทางเหมือนยิ้มให้กล้อง เมื่อเจ้าของบอกให้ยิ้มก็ยิ่งยิ้มสู้กล้องอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ม่วนคักๆ เส้นทางอาหารถิ่นอีสาน "สกลนคร-บึงกาฬ"

ม่วนคักๆ เส้นทางอาหารถิ่นอีสาน "สกลนคร-บึงกาฬ"

อาหารเป็นวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนแต่ละท้องถิ่น เป็นอีกประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้เปิดหูเปิดตา เปิดประสาทสัมผัสแห่งการรับรสที่แปลกและแตกต่างออกไป และหากกล่าวถึงเรื่องราวของอาหารอีสาน คำว่า “แซ่บ” ก็ลอยมาแต่ไกล ซึ่งแซ่บที่ว่านั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องความอร่อย แต่เต็มไปด้วยความสนุก อันเป็นวิถีของชาวอีสาน